หนังสือแนะนำ ได้ฉุกคิดหลายอย่าง
เขียนขึ้นในปี 2012 แต่ยังใช้การได้ดี
ว่าด้วยการนำเครื่องมือที่ใช้บริหารธุรกิจ
มาบริหารชีวิตส่วนตัวของเรา
เนื้อหาเรียบเรียงเพิ่มจากปาฐกถา
วันจบการศึกษาของนักศึกษา
Harvard business School
บรรยายโดยผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม
ซึ่งก็คือผู้เขียนหนังสือเล่มนี้
Clayton M. Christensen
ในช่วงนั้นเขาป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
จึงอยากบอกเล่าถึงแนวทางการใช้ชีวิต
เพื่อให้ชีวิตมีทั้งความหมายและความสุข
มีความสมดุลในด้านอื่นของชีวิต
ที่มากกว่าแค่สำเร็จในหน้าที่การงาน
แรงบันดาลใจของการเขียนหนังสือเล่มนี้
ผู้เขียนบอกว่าเริ่มมาจากงานเลี้ยงรุ่น
เขาได้พบเจอเพื่อนเก่าหลาย ๆ คน
ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งเห็นความเปลี่ยนแปลง
บางคนประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
แต่กลับไม่มีความสุข เพราะล้มเหลวเรื่องครอบครัว
บางคนมีตำแหน่งใหญ่โต ชื่อเสียงระดับประเทศ
แต่ในเวลาต่อมา ต้องติดคดีเพราะทำผิดกฏหมาย
เรื่องราวตรงนี้เอง ที่ทำให้เขาอยากเขียน
เพื่อบอกเล่าเป็นแนวทางให้กับคนรุ่นหลัง
จะได้ไม่หลงออกนอกเส้นทาง
และตัดสินใจได้อย่างมีสติขึ้น
ด้วยความที่เขาเป็นอาจารย์สอนเรื่องธุรกิจ
เขาจึงใช้วิธีจัดการกธุรกิจ มาปรับใช้จัดการชีวิต
ผู้เขียนเริ่มต้นจากคำถามสำคัญ 3 คำถาม
ซึ่งจะเป็นแกนของหนังสือเล่มนี้ นั่นก็คือ
1.
เราจะมั่นใจได้อย่างไร
ว่าจะสำเร็จและมีความสุขในหน้าที่การงาน?
2.
เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าความสัมพันธ์ต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นคู่ชีวิต ลูก ครอบครัว เพื่อนฝูง
จะเป็นแหล่งแห่งความสุขในชีวิตของเรา?
3.
เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต
ไม่ทำตัวไปข้อเกี่ยวกับการทำผิดกฏหมาย
เพราะฉะนั้นเนื้อหาในเล่ม
ก็คือแนวทางคำตอบของคำถามทั้ง 3 ข้อนี้นี่เอง
โดยเขาจะให้เป็นทฤษฎีที่ไม่ได้มีคำตอบตายตัว
แต่ปรับใช้ได้ในทุกสถานการณ์
ความสนุกของหนังสือเล่มนี้ ในภาคภาษาไทยก็คือ ต้นฉบับเดียวกัน แต่ต่างสำนวนอย่างเหลือเชื่อ
ถ้าชอบแบบแปลตรง ๆ เหมือนหนังสือแปลทั่วไป
คงต้องปกซ้าย โดยสำนักพิมพ์ Nation Books
(หาซื้อยากหน่อย เพราะออกมาตั้งแต่ปี 2556)
ถ้าชอบแบบเนื้อหาเน้น ๆ สั้นกระชับ
ชอบสำนวนคุณภิญโญ
ชอบการย่อหน้าบ่อย ๆ
ชอบหนังฝรั่งที่นำมารีเมคใหม่
ถอดความใหม่ให้เป็นหนังสำนวนจีน
คงต้องปกขวา โดยสำนักพิมพ์ openbooks
(หาซื้อง่าย ขายดี พิมพ์มา 12 ครั้งแล้ว)
ส่วนตัวผมแนะนำให้อ่านทั้งสองสำนวน
ปกซ้ายนั้น บางช่วงหนืด ๆ ไปบ้าง
แต่อย่างน้อยก็ได้อ่านทั้งหมดที่ผู้เขียนเขียน
ส่วนปกขวานั้น อ่านง่าย คมคายตามสไตล์คุณภิญโญ
แต่ก็ผ่านการถอดความ จนเกือบกลายเป็นงานผู้แปล
(หนังสือจึงเขียนว่านำเสนอและถ่ายทอดเป็นภาษาไทย)
แต่ไม่ว่าสำนวนไหน ก็ดีทั้งนั้นครับ
ถือเป็นหนึ่งเล่มที่ประทับใจและเตือนสติได้ดี
ว่าสิ่งไหนกันแน่ที่สำคัญกับชีวิตอย่างแท้จริง
Comments