บทความนี้ผมเขียนในช่วงหลัง 13 ตุลาคม 2559 ไม่กี่วัน
เป็นช่วงเวลาแห่งความเสียใจของคนไทยทั้งประเทศ
ตอนนี้เหตุการณ์ดังกล่าวผ่านมา 3 ปีแล้ว
ผมได้อ่านบทความดังกล่าวอีกครั้ง
และคิดว่ายังมีประโยชน์ จึงนำมาลงในเว็บอีกครั้งครับ
บรรทัดต่อไปนี้คือบทความดังกล่าว...

หลังจากม่านหมอกแห่งความโศก
ปกคลุมประเทศไทยมาหลายวัน
ในห้วงแห่งความสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดนี้
ผมคิดว่าน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
ที่คนไทยทุกคนจะต้องช่วยกันคิดว่า
"หลังจากนี้
เราจะทำให้ประเทศไทยดีขึ้นได้อย่างไร?"
ผมมีโอกาสพูดคุยกับผู้คนหลากหลาย
บางท่านเป็นนักธุรกิจระดับสูง
บางท่านเป็นผู้บริหารเครือยักษ์ใหญ่
บางท่านเป็นคนไทยที่ทำธุรกิจอยู่ต่างประเทศ
บางท่านเป็นคนต่างประเทศที่ทำธุรกิจอยู่ไทย
ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า
มีอยู่ 3 เรื่องที่คนไทยต้องรีบปรับปรุง
ไม่อย่างนั้น 3 เรื่องนี้จะเป็นตัวถ่วงความเจริญ
และทำให้ไทยล้าหลังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ลองอ่านดูนะครับว่าคุณเห็นด้วยหรือไม่?
ต้องปรับปรุงเรื่องที่ 1
"ความไม่มีระเบียบวินัย"
"ทำอะไรตามใจคือไทยแท้"
คือคำขวัญอย่างไม่เป็นทางการของไทยเรา
ขายของบนทางเท้า ทิ้งขยะตรงไหนก็ได้
ขับรถย้อนศร กลับรถในที่ห้ามกลับ
ไปทำงานสาย แต่กลับบ้านก่อนเวลา
เจ้านายอยู่ออฟฟิศ ถึงจะตั้งใจทำงาน
และอีกมาก...ไม่อยากประจานกันเอง
ที่ผ่านมา บ้านเมืองเราเจริญแล้วในวัตถุ
แต่กับระเบียบวินัย เรายังล้าหลังอยู่มาก
ถ้ามีโอกาสได้ไปประเทศที่เจริญ
เราจะเห็น "ระเบียบวินัย" ในประเทศเขา
ครั้งหนึ่งผมเคยได้ยินต่างชาติท่านนึงบอกว่า
คนไทยแปลกมาก แปลกที่สุด
สิ่งที่กฎหมายห้ามทำ คนไทยกลับกล้าฝ่าฝืน
เช่น กล้าขับรถฝ่าไฟแดง กล้าย้อนศร
แต่สิ่งที่กฎหมายไม่ห้าม คนไทยกลับไม่กล้าทำ
เช่น ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม
แค่เรื่อง "ไม่มีระเบียบวินัย" เพียงเรื่องเดียว
ประเทศก็เจริญช้ากว่าที่ควรจะเป็นแล้วล่ะครับ
ต้องปรับปรุงเรื่องที่ 2
"ความไม่มีมาตรฐาน"
"เมื่ออยู่กับกลิ่นใดนานพอ
เราจะเริ่มไม่ได้กลิ่นนั้น แม้จะเหม็นแค่ไหนก็ตาม"
คือคำอธิบายของการอยู่กับสิ่งที่ไม่ได้มาตรฐาน
อยู่มานาน...นานจนเคยชิน
แผ่นทางเท้ากระโดกกระเดก น้ำท่วมขัง
ถนนเป็นลูกคลื่น แตกร้าว ทั้งที่สร้างแค่ปีเดียว
รถโดยสารขับซิ่งตามใจคนขับ ไม่มีการควบคุม
ม่านรูดอยู่ตรงข้ามโรงเรียนอนุบาล
และอีกมาก...ไม่อยากประจานกันเอง
ถ้าเป็นไปได้
ผมอยากให้คนไทยทุกคนได้ไปต่างประเทศ
ไปลองดูมาตรฐานว่าเขาทำอะไร ทำอย่างไร
ทำไมประเทศเขาจึงมีมาตรฐานกว่าเรา
เพื่อที่เราจะได้เลิกเคยชินในความไม่มีมาตรฐาน
เพื่อที่เราจะได้ "ยอมรับไม่ได้"
ในสิ่งเรียกขานกันว่า "มาตรฐานแบบไทย ๆ"
เพื่อที่จะได้หันมาบอก
คนที่ทำสิ่งไม่ได้มาตรฐานแบบนี้ว่า
"ฉันจะไม่ทนสิ่งกับเหล่านี้อีกต่อไป"
แน่นอน เราต้องบอกตัวเองด้วย
ฉันจะไม่ทำงานแบบสุกเอาเผากิน
ฉันจะมีมาตรฐานในการทำงาน
เพราะต่อให้ใครไม่รู้ ฉันก็ย่อมรู้ตัวเอง
ต้องปรับปรุงเรื่องที่ 3
"ไม่มีการต่อยอด"
"สินค้า/บริการที่ขายดีที่สุดยุคนี้
ล้วนแต่คือสิ่งที่เกินความจำเป็นทั้งสิ้น"
คือคำอธิบายว่าโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
แต่เราคนไทย ยังก้าวไม่ทัน
เพราะต่อยอดไม่ได้ เพิ่มมูลค่าไม่เป็น
ทุกวันนี้เราไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเพราะต้องปกปิด
ไม่ได้กินอาหาร เพียงเพราะให้หายหิว
ไม่ได้กินใช้ เพราะต้องกินใช้
แต่เพราะต้องการแสดงตัวตนบางอย่าง
สินค้าพื้นบ้านของเราคุณภาพดีมาก
แต่การออกแบบยังล้าหลัง
อาหารการกินของเราสุดยอด
แต่ยังต่อยอดให้เป็นวัฒนธรรมส่งออกไม่เป็น
สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติของเราระดับโลก
แต่นั่นก็คือทุนเก่าที่เรามีอยู่แล้ว
เมื่อเรายังเพิ่มมูลค่าสินค้าได้ไม่เก่ง
"การให้บริการ" จึงเป็นอย่างเดียวที่ทำได้ดี
แต่ข้อเสียของการบริการก็คือ
มันขยายตัวและทำซ้ำได้ยาก
เราจึงหาทางเติบโตกว่านี้ได้ลำบาก
ทั้งหมดนี้คือ 3 เรื่องเร่งด่วนที่คนไทยต้องรีบทำ
เพื่อทำให้ประเทศชาติก้าวต่อไป
บอกก่อนว่าผมไม่ได้อวยต่างประเทศ อะไรก็ดีหมด
แต่อนาคตอันใกล้ โลกจะไม่เป็นเขตแดนที่ชัดเจนอีกต่อไป
คนไทยแย่แน่ ๆ ถ้ายังไม่ปรับตัวรับการหลอมรวม
เพราะคู่แข่ง...คือคนทั้งโลก
ครั้งหนึ่ง
นักธุรกิจท่านนึงพูดถึงอนาคตประเทศไทยไว้ว่า
ในอนาคต ประเทศไทยอยู่ได้
เพราะทรัพยากรของเราอุดมสมบูรณ์
แต่คนไทยอาจจะอยู่ไม่ได้
เพราะความสามารถน้อย ระเบียบวินัยไม่มี
เราอาจต้องไปทำงานใช้แรงงานในต่างประเทศ
ส่วนประเทศเรา ก็จะมีคนต่างชาติมาทำงานแทนคนไทย
พูดตรง ๆ ผมอยากให้เขาทำนายผิด
(แม้ลึก ๆ จะคิดว่ามีส่วนถูกอยู่ก็ตาม)
อย่าแค่เพียงแสดงความเสียใจในความสูญเสีย
แต่พวกเราทุกคนต้องแสดงการกระทำด้วย
จากนี้เราจะทำให้ประเทศไทยดีขึ้นได้อย่างไร?
ถ้าเห็นด้วยกับสิ่งที่เขียนมาทั้งหมด
ไม่ต้องไปเรียกร้องให้ใครเปลี่ยนแปลง
แต่จงเปลี่ยนแปลงที่ตัวเองก่อนเสมอ
ทำตัวเองให้มีระเบียบวินัยได้หรือไม่?
ทำผลงานให้ได้มาตรฐานได้หรือไม่?
ต่อยอดเพื่อเพิ่มมูลค่าให้ประเทศได้หรือไม่?
ถ้าทำได้
เมื่อพ่อของเรา มองลงมา
ท่านคงจะสบายใจขึ้นเยอะครับ
Comments