ผมยินดีจ้างคุณเดือนละหนึ่งแสนบาท
ถ้าคุณพิสูจน์ให้ผมเห็นว่า
คุณสามารถสร้างรายได้ให้ผม
เดือนละสองแสนหรือมากกว่า
ฟังเหมือนตลกร้าย แต่นี่คือเรื่องจริง
เราจะเอาเงินเดือนเท่าไหร่ก็ได้
ถ้าหาเงินให้บริษัทได้มากกว่าเงินเดือน
เพราะเจ้าของบริษัทเขา "ทำธุรกิจ"
เมื่อเป็นธุรกิจก็ต้องมีกำไร
และต้องคิดว่าเงินที่จ่ายให้พนักงาน
คุ้มค่าแค่ไหนที่จะสร้างรายได้กลับมา?
แน่นอนว่าจะมีคนโอดครวญว่า
นายจ้างเอาเปรียบ ใช้งานเยี่ยงทาส
ฉันได้เงินเดือนไม่คุ้มเลย
ประเด็นก็คือ ถ้าไม่คุ้ม งั้นก็น่าจะลาออกนะครับ ทนไปทำไม?
พอพูดแบบนี้ เสียงอวดครวญก็จะเงียบ
...ว่าแล้วก็ก้มหน้าก้มตาทนทำงานต่อไป
บ่นไปงั้นแหละ ออกไปก็ไม่รู้จะหางานอะไรทำ
โลกนี้มีคนเงินเดือนหนึ่งหมื่นบาทกับหนึ่งล้านบาท
เพราะเขาสร้างคุณค่าให้กับบริษัทแตกต่างกัน
ถ้าคุณคิดว่างานที่ "เงินเดือนเป็นแสน" หายาก
ผมอยากบอกว่าคุณเข้าใจผิดแล้ว
สิ่งที่หายากไม่ใช่ตำแหน่งงานเงินเดือนแสน
แต่คือ "คนมีความสามารถ"
เหมาะกับเงินเดือนแสนต่างหาก
บริษัทมากมายพร้อมจ่ายเงินเดือนหลักแสน
แต่หาคนที่มีคุณสมบัติคู่ควรยากมาก
เพราะมีแต่คนที่อยากได้เงินเดือนเป็นแสน
แต่ความสามารถเหมาะกับเงินเดือนไม่กี่พัน
อย่าเอาแต่บ่นว่าอยากได้เงินเดือนเป็นแสน
แต่เราต้องพัฒนาความสามารถ
ให้คู่ควรกับเงินเดือนจำนวนนั้นก่อน
แล้วงานเดือนแสนจะมาหาเราเอง
อ้อ! ไม่ต้องกลัวพัฒนาตัวเองฟรี ๆ
แล้วบริษัทจะไม่ขึ้นเงินเดือนให้นะครับ
มีบริษัทมากมายต้องการคนทำงานเก่ง ๆ
เขาพร้อมจ่ายหนัก ถ้าคุณเจ๋งจริง
รับรองจะมีแต่คนแย่งตัวคุณไปทำงานให้
แรกเริ่ม
การหาเงินเดือนละหมื่น
มันจะช่างยากเย็นเหลือเกิน
ต่อมา เมื่อเก่งขึ้น
การหาเงินวันละหมื่น
จะเป็นเรื่องที่เราทำได้สบาย
ต่อต่อมา เมื่อเก่งขึ้นอีก
การหาเงินชั่วโมงละหมื่น
มันจะไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
ตัวเลขพวกนี้ไม่ใช่รายได้สมมติ
แต่มีคนทำได้จริงมากมาย
ทั้งหมดไม่มีอะไรมากไปกว่า
เพราะเขาพัฒนาตัวเองให้เก่งและมีคุณค่า
โลกนี้ยุติธรรม
เราจะได้รับผลตอบแทนตามความสามารถ
ปีนี้ ถ้ารู้สึกว่าได้เงินน้อยกว่าที่อยากได้
ก่อนจะโทษบริษัท ก่อนจะโทษที่ทำงาน
ให้ลองถามตัวเองก่อนว่า
"ความสามารถของเราคู่ควรกับรายได้ที่อยากได้หรือเปล่า?"
เก่งให้สมเงินแสน แล้วเงินแสนจะวิ่งหา
นี่คือเรื่องจริง
#บนท้องฟ้ารถไม่เคยติด
Comments