1.
อาร์คีมีดิสร้องว่า "ยูเรก้า!" ขณะอาบน้ำ "เพลิน ๆ" แล้วค้นพบวิธีการวัดปริมาตรของมงกุฎ ...สิ่งนี้เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่? นิวตันค้นพบกฎแรงโน้มถ่วงของโลก ขณะกำลังนั่งเล่นอยู่ใต้ต้นแอปเปิ้ล ดูท้องฟ้าไป "เรื่อย ๆ" ...สิ่งนี้เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่?
เมื่อก่อนผมก็ไม่เคยคิดเรื่องนี้ แต่พอสังเกตตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็พบว่าบ่อยครั้งที่ "ไอเดียดี ๆ" มักจะมาตอนกำลังทำอะไร "เพลิน ๆ" เช่น อาบน้ำ ล้างจาน เดินเล่น หรือไม่ก็ตอนนั่งว่าง ๆ คิดอะไรไป "เรื่อยเปื่อย" ต่อมาเมื่อได้อ่านหนังสือหลายเล่มจึงพบว่า "ปรากฏการณ์ไอเดียดี ๆ" ดังกล่าว นักคิดหลายคนรู้มานานแล้วว่าตอนที่มนุษย์จิตว่าง ๆ เราจะคล้ายได้เชื่อมต่อกับ "ความคิดของจักรวาล" เราจึงได้ความคิดดี ๆ กลับมาเสมอ
ฟังดูอวกาศเพ้อฝันมากที่พูดเรื่องแบบนี้ แต่จากประสบการณ์ส่วนตัว ผมคิดว่าเรื่องนี้มีส่วนจริงอยู่ไม่น้อย บางคนอาจเรียกสิ่งนี้ว่า จิตเหนือสำนึก ปัญญาญาณ เซนส์ ฯลฯ
...ไม่ว่าจะเรียกอะไรก็ตาม มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมอยู่บ่อย ๆ
2.
คำแนะนำที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ก็คือ หากกำลังมีปัญหาต้องขบคิด...แต่คิดไม่ออก หากกำลังอยากได้ไอเดียดี ๆ ความคิดใหม่ ๆ หรือหากต้องตัดสินใจบางอย่างที่ไม่แน่ใจ ให้ลองจัดเวลา "เชื่อมต่อตัวเอง" กับ "ความเงียบ" เช่น...ทุกเช้าตื่นนอน ลองอยู่กับความเงียบสัก 15 นาที หรือระหว่างวัน หากต้องขับรถ ให้ลองไม่เปิดเพลงอะไรเลย หรือช่วงเย็น ให้ลองจัดเวลาเดินเล่นสัก 15 นาที หรือก่อนนอน ลองนอนมืด ๆ อยู่ในความเงียบ (ไม่ต้องทำทุกอย่างทั้งหมดในทุกวันก็ได้ครับ)
หากได้ทำแม้บางอย่างข้างต้น เราจะเริ่มรู้สึกสงบข้างใน เริ่มได้ยินเสียงความคิดตัวเอง ไอเดียดี ๆ จะหาโอกาสพรั่งพรูออกมา ปัญหาที่เคยไม่แน่ใจ จะเหมือนมีคำตอบให้เราตัดสินใจ (และมักถูกทุกครั้ง)
ลองทำดูนะครับ แล้วจะค้นพบขุมทรัพย์ในตัวเอง ขุมทรัพย์ที่ขุดได้ไม่มีวันหมด เป็นคำตอบที่อยู่ไม่ไกล
...เพราะมันอยู่ในใจ อยู่ในความคิด อยู่ในตัวของเราเอง
3.
นอกจากความเงียบแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ผมอยากแนะนำให้ลองทำดู นั่นคือ อย่าลืมจัด "เวลาว่าง" ใส่ไว้ในตารางทำงาน...ฟังดูแล้วย้อนแย้ง ไม่เข้ากันชอบกล ในตารางการทำงาน จะมีเวลาว่างได้อย่างไร?
ผมเองเพิ่งเข้าใจเรื่องนี้เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรื่องของเรื่องก็คือ มีอยู่วันหนึ่ง ผมปรึกษาหมอเรื่องสุขภาพ หมอบอกผมว่าคุณต้องออกกำลังกาย ผมตอบไปว่าไม่ค่อยว่างเลยครับ ทำงานจนลืมตัวทุกที ตารางงานเต็มเอี้ยด...เลยไม่ค่อยมีเวลาว่าง
หมอนิ่งไปสักพัก แล้วตอบผมมาว่า "ถ้าจะรอให้มีเวลาว่าง มันคงไม่มีทางเกิดขึ้น คุณต้องใส่ลงไปในตารางงานเลยว่า การออกกำลังกายคือ 'งานอย่างหนึ่ง' ของคุณ"
คำตอบนี้ทำให้ผมรู้สึกราวกับมีลำแสงส่องลงมาจากยานแม่ มันเป็นคำตอบที่ใช่มาก ๆ คนเรามักจัดเรื่องที่ควรทำ แต่ไม่ต้องรีบทำ ไว้ในหมวด "ถ้าว่างแล้วจะทำ" แต่ปรากฏว่าเวลาว่าง เหมือนไม่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้
...เราจึงไม่เคยได้ทำสิ่งที่ควรทำสักที
4.
ว่ากันว่ามีกฏจักรวาลอยู่ข้อหนึ่ง บอกไว้ว่า "โลกนี้ชิงชังความว่างเปล่า มันจึงต้องหาอะไรมาเติมให้เต็มเสมอ" ยกตัวอย่างบ้านที่ตอนซื้อใหม่ ๆ ก็โล่งดี พออยู่ไปนาน ๆ ของรกเต็มบ้านไปหมด หรืออย่างสมองของเรา มันก็ไม่เคยว่าง ต้องหาอะไรมาให้คิดวุ่นวายตลอดเวลา
ตารางงานของเราก็เช่นกัน มันชิงชังความว่างเปล่า เราหลายคนที่เข้มข้นกับชีวิต จึงพยายามหางานมาเติมตารางให้เต็ม เต็มจนลืมไปว่า...เราควรมี "เวลาว่าง" บ้าง
ความว่างจะก่อให้เกิดสมาธิ สมาธิจะก่อให้เกิดปัญญา ไอเดียจะพรั่งพรู หนึ่งวันที่มีเวลาว่างบ้าง เราจะได้เคลียร์ขยะในหัว เผลอ ๆ การทำแบบนี้จะได้ประสิทธิภาพในการทำงาน มากกว่าการตะลุยไปข้างหน้าอย่างไม่มีวันหยุด
ลองจัดให้ "เวลาว่าง" คือการทำงานอย่างหนึ่งของเราสิครับ ลองใส่ว่าวันไหน เวลาไหน คือเวลาว่างของเรา มีบางงานติดต่อเข้ามา ลองบอกว่า "ไม่ว่าง" บ้างสิครับ ...ที่ไม่ว่าง ไม่ใช่เพราะมีงานนะครับ แต่ที่ไม่ว่าง เพราะอยากจะว่างบ้างเท่านั้นเอง ใส่ "วันว่าง" ไว้ในตารางของเรา จำไว้เสมอว่า "วันว่าง" คือการทำงานอย่างหนึ่ง
แล้วจะพบว่าชีวิตนิ่งขึ้น สงบขึ้น ลุ่มลึกขึ้น เมื่อมีเวลาว่างให้กับตัวเอง.
Comments