1.
ถ้าปัญหาเดิม ๆ หลายปีก่อน ยังคงเป็นปัญหาในวันนี้ของเรา นั่นแปลว่าเราไม่ได้ดีขึ้นจากเมื่อก่อนเลย ผมจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ทั้งทางวัตถุและไม่วัตถุ
ทางวัตถุ เช่น ถ้าวันนี้ของที่เคยอยากได้หลายปีก่อน วันนี้ก็ยังไม่มีเงินซื้ออยู่ดี...เอื้อมไม่ถึง นั่นแปลว่าหลายปีที่ผ่านมา ฐานะเราไม่ได้ขยับขึ้นสักเท่าไหร่
ทางร่างกาย เช่น ถ้าวันนี้ไปตรวจสุขภาพ ค่าตรวจวัดต่าง ๆ ยังเกินเหมือนปีก่อน สุขภาพยังไม่เต็มร้อยเหมือนเดิม นั่นแปลว่าหลายปีที่ผ่านมา เราไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองเลย
ทางจิตใจ เช่น ถ้าวันนี้เจออะไรนิด ก็อารมณ์ร้อนอีกแล้ว ยังมีปัญหากับคนนั้นคนนี้เหมือนทุกที นั่นแปลว่าหลายปีที่ผ่านมา เรายังไม่ได้เติบโตทางอารมณ์เลย ทางวัตถุ ทางร่างกาย ทางจิตใจ ตอนนี้เรามีปัญหาอะไรบ้าง?
2.
การแก้ปัญหานั้นมันมี 2 อย่าง คือใช้เงินแก้ กับ ใช้ตัวเราเองแก้
ถ้าเราเก่งขึ้นจากเมื่อก่อน ฐานะย่อมดีขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่เคยเป็นปัญหาเมื่อก่อน ย่อมหายไป เช่น อยากขับรถดี ๆ อยากอยู่บ้านดี ๆ อยากให้ลูกเรียนโรงเรียนดี ๆ อยากดูแลพ่อแม่ให้กินดีอยู่สบาย ปัญหาพวกนี้ควรจะค่อย ๆ หมดไป ...หากฐานะเรา "ดีขึ้น" จากเมื่อก่อน
ถ้าเราดีขึ้นจากเมื่อก่อน กายใจย่อมดีขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่เคยมีปัญหาสุขภาพ ย่อมหายหรือดีขึ้น เช่น อยากแข็งแรงเต็มศักยภาพ ไม่อยากป่วย อยากจิตใจไม่ว้าวุ่น ไม่อยากฉุนเฉียวง่าย อาการพวกนี้ควรจะค่อย ๆ หมดไป
...หากกายใจเรา "ดีขึ้น" จากเมื่อก่อน
สำรวจตัวเองดูสิครับว่าปัญหาเก่า ๆ ยังตามมาอยู่ใช่หรือเปล่า?
ถ้าใช่...มันก็สะท้อนได้ดีว่าชีวิตเรายังไปไม่ถึงไหน ปัญหา "ระดับเดิม ๆ" จึงยังคงทำร้ายเราได้อยู่
3.
แน่นอน ผมไม่ได้บอกว่า หากเราดีขึ้น เราจะไม่มีปัญหาเลย เพราะมนุษย์นั้นเจ้าปัญหาอยู่แล้ว หมดปัญหานั้น ก็หาปัญหาใหม่มาใส่ตัว เพียงแต่เราไม่ควรให้ปัญหาระดับเดิม ๆ ยังคงตามมารังควานอยู่ร่ำไป เพราะนั่นแปลว่าเรายังอยู่ที่ระดับเดิม
"เหมือนเดิมแปลว่าแย่ลง" ผมพูดประโยคนี้อยู่บ่อย ๆ อย่าดีใจที่วันนี้ยังอยู่ระดับเดิม...ระดับเดิมกับเมื่อหลายปีก่อน เพราะที่จริงแล้วเรากำลังตกชั้น ...แต่ไม่รู้ตัว เรื่องนี้ก็เหมือนเงินเฟ้อนั่นแหละครับ ยี่สิบบาทเมื่อก่อนกินข้าวอิ่ม เดี๋ยวนี้ซื้อน้ำหวานได้แก้วเดียว นี่เองที่ผมบอกว่า "เหมือนเดิมแปลว่าแย่ลง"
ถ้าปัญหาเดิม ๆ หลายปีก่อน ก็ยังคงเป็นปัญหาในวันนี้ของเรา นั่นแปลว่าเราไม่ได้ดีขึ้นจากเมื่อก่อนเลย
4.
ขอให้ลองลิสต์ 3 ปัญหาที่รบกวนอยู่ตอนนี้ จากนั้นเขียนตัวเลขเวลากำกับท้ายปัญหา ว่าฉันมีปัญหานี้มานานแค่ไหนแล้ว?
เช่น ถ้าปัญหานี้เกิดซ้ำซากมากกว่า 3 ปีแล้ว นั่นก็แปลว่า...เราไม่ได้ดีขึ้นในด้านนี้จากเมื่อ 3 ปีที่แล้ว จึงต้องรีบแก้ไขด่วน ก่อนจะสายเกินไป ส่วนจะแก้ไขอย่างไรนั้น ผมไม่อาจบอกชี้ชัดได้ เพราะปัญหามีร้อยแปด
แต่ที่แน่ ๆ การตระหนักรู้ตัวว่าฉันมีปัญหา นั่นคือการแก้ไขปัญหาขั้นที่หนึ่งแล้ว...ขั้นต่อ ๆ ไปเราต้องหาทางเอง
3 ปีข้างหน้า ปัญหาซ้ำซากจะหายไปได้ ต้องเกิดจากเราเริ่มทำบางอย่างนับตั้งแต่วันนี้
ได้เวลายกระดับชีวิตแล้วครับ.
Comments