top of page

เรากำลังปลูกนิสัยอะไร?

Updated: May 8, 2021

1.

เคยได้ยินประโยคนี้ไหมครับ? "Old Habits Die Hard" แปลเป็นไทยแบบสุภาพหน่อยก็คือ "นิสัยเก่าแก้ยาก" แต่ถ้าแปลแบบสะใจหน่อยก็คือ "สันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก" ผมเคยเขียนประโยคนี้ไว้ในหนังสือ "งานไม่ประจำทำเงินกว่า" เมื่อหลายปีก่อน

ภาพถ่ายโดย Markus Spiske จาก Pexels


นิสัยนั้นสำคัญกับชีวิตเรามาก เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงหนังสือ 2 เล่ม เล่มแรก The Power of Habit (มีแปลไทยแล้วชื่อ สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยนิสัยแค่ 1% สำนักพิมพ์วีเลิร์น) และเล่มที่สอง Writing Habit Mastery (เล่มนี้ไม่มีแปลไทย ซื้ออ่านแบบ kindle ได้ที่ amazon กดที่นี่) ทั้งสองเล่มเชื่อมโยงกันในหัวผม จนอยากนำมาเล่าให้ฟัง

The Power of Habit ศึกษากันเป็นเรื่องเป็นราวถึงการเกิดขึ้นของ "พฤติกรรม" ที่ค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็น "นิสัย" โดยผู้เขียนบอกว่าวงจรนิสัยนั้นเกิดจากการมีสิ่งกระตุ้นให้เราทำบางอย่างเป็นประจำ โดยเราจะโหยหาถึง "รางวัล" ที่จะได้รับหลังทำกิจกรรมนั้น

ส่วน Writing Habit Mastery นั้นพูดถึงเรื่องการฝึกเขียนหนังสือ "ทุกวัน" จนเป็นนิสัย ซึ่งนอกจากเรื่องงานเขียนที่ทำจนเป็นนิสัยแล้ว ผู้เขียนยังชวนให้เข้าไปใน blog ของเขาเพื่อดูว่าเขา "ปลูก" นิสัยอะไรไว้บ้าง เช่น นิสัยการอ่านหนังสือวันละครึ่งชั่วโมงก่อนนอน เป็นต้น โดยประเด็นที่ผมชอบมากก็คือ ผู้เขียนบอกว่าคนเราสร้างนิสัยใหม่ได้ทีละนิสัย และต้องใช้เวลาอย่างน้อย "หนึ่งเดือน" กว่าพฤติกรรมนั้นจะติดเป็นนิสัย

หนังสือทั้งสองเล่มนี้ทำให้ผมนึกถึง 2 เรื่องที่น่าสนใจ


เรื่องแรก แปลว่าเราสร้างนิสัยอะไรให้ตัวเองก็ได้ ขอเพียงแค่ "ปลูก" นิสัยนั้นให้นานพอ ด้วยการทำต่อเนื่องประมาณ 1 เดือน นิสัยที่เป็นเหมือนต้นอ่อนจึงจะแทงรากลงไปในกิจวัตร เราจะทำพฤติกรรมนั้นได้โดยไม่ต้องคิด แต่ทำไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งนั่นคือ "นิสัย" นั่นเอง

เรื่องที่สอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าอยากปลูกนิสัยให้สำเร็จ แปลว่าเราต้องมีแรงบันดาลใจมากพอ จึงจะขยับเขยื้อนทำสิ่งใหม่ ๆ ซึ่ง "แรงบันดาลใจ" ที่ว่านี้จะเป็น "แรงผลัก" หรือ "แรงดูด" ก็ได้

บรรทัดต่อจากนี้ ผมจะค่อยๆ อธิบายเรื่องเหล่านี้เพิ่มเติมครับ


2.

หลายปีก่อน ผมเฝ้าปลูกนิสัยการออกกำลังกาย เนื่องจากชีวิตแทบไม่ได้ออกกำลังเลย นั่ง ๆ นอน ๆ ทั้งวัน เพราะทำงานที่ใช้ความคิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผมรู้ว่าขืนยังเป็นอย่างนี้ต่อไป โรคภัยจะต้องถามหาแน่ๆ หมอก็เตือนมาหลายครั้งแล้ว

แต่อย่างที่รู้ นิสัยขี้เกียจนั้นยากจะทำลาย นิสัยที่เกิดขึ้นแล้ว แทบไม่มีทางทำลายได้ สิ่งที่พอทำได้ก็คือ "ปลูกนิสัยใหม่" ทับนิสัยเก่านั้นเสียเลย ช่วงนั้นผมจึงตัดสินใจปลูกนิสัยใหม่ (ออกกำลังกาย) แต่แค่วิ่งหน้าหมู่บ้านได้สองวัน ผมก็เลิกแล้ว การทำต่อเนื่องระดับ 1 เดือนจึงไม่เคยเกิดขึ้น ให้ออกกำลังอย่างเดียว ผมขี้เกียจแน่ ๆ เพราะแรงในการ "ผลัก" ผมให้หนีตาย ยังมีไม่มากพอ


ทุกคนกลัวตาย ใครก็รู้ แต่เห็นไหมว่าคนส่วนใหญ่ก็ยังไม่ออกกำลังกายอยู่ดี

และแล้วในที่สุด ผมก็ค้นพบวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างนิสัยใหม่ ผมทำแบบนี้ครับ ผม "ผูก" การออกกำลังกายเข้ากับความสุข ด้วยการซื้อเครื่องออกกำลังกายมาไว้ที่บ้านเสียเลย จากนั้นผมก็วิ่งไป ดูหนังไปด้วย วิธีนี้ "ดึงดูด" ผมได้มาก เพราะมันได้ผล สิ่งแรกที่ผมทำตอนตื่นก็คือวิ่งออกกำลังไปด้วย ดูหนังไปด้วย 45 นาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหงื่อท่วมร่าง หลายครั้งผมไม่อยากหยุดออกกำลัง เพราะเพิ่งดูหนังได้แค่ครึ่งเรื่อง


(หมายเหตุ : บทความนี้ผมเขียนไว้นานแล้ว นำมารีไรท์ใหม่ ปัจจุบันผมไม่ได้ออกกำลังด้วยการวิ่ง แต่ทุกเช้ายังยืดเส้นเล่นโยคะ ซิทอัพ แพลงค์ เดินวันละไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นก้าว ตอนเย็นตีแบดกับลูกสาว และเล่มเกมเต้นปิดท้ายตอนกลางคืน ทั้งหมดนี้ใช้หลักการเดียวกันคือ ผูกการออกกำลังกายกับเรื่องอื่นที่สนุกกว่าการออกกำลังกาย (ในกรณีที่ไม่ชอบออกกำลังกายเหมือนผม) เพราะฉะนั้นแปลว่าวิธีนี้เวิร์คจริง ๆ ครับ)

ทั้งหมดที่เล่ามาเป็นตัวอย่างของการปลูกนิสัยใหม่ ๆ ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องออกกำลังกายเท่านัน จะเป็นการปลูกนิสัยอะไรก็ได้ ทั้งดีและแย่


แต่ปลูกทั้งที ก็ควรเป็นนิสัยที่ดีหน่อย ใช่ไหมครับ?


3.

เราสามารถปลูกนิสัยตื่นเช้า ปลูกนิสัยกินอาหารมีประโยชน์ ปลูกนิสัยพูดขอบคุณให้ติดปาก ปลูกนิสัยทำงานให้สำเร็จไม่คั่งค้าง ปลูกนิสัยตรงต่อเวลา ...ปลูกนิสัยอะไรก็ได้ครับ แต่ต้องทำให้นานมากพอ ซึ่งบางตำราก็เขียนไว้ว่าต้องไม่น้อยกว่า 21 วันติดกัน นิสัยถึงจะฝังแน่น เหมือนกาวที่แห้งแล้ว ยากจะดึงออก (ซึ่งเอาจริง กี่วันก็ได้ครับ ขอให้นานหน่อย)

นอกจากนานพอแล้ว ต้องอย่าลืมเรื่องสำคัญ นั่นคือ ต้องหาให้เจอว่าแรงอะไรที่ผลักเราไปข้างหน้า? จะเป็น "แรงผลัก" ให้เราพ้นจากสิ่งที่ไม่อยากเป็นอยู่ในทุกวันนี้ หรือจะเป็น "แรงดูด" ให้เราพุ่ง เพราะมีอะไรดี ๆ รออยู่ข้างหน้า


ทุกคนต้องหาให้เจอว่าอะไรที่ "สับไก" ให้เราพุ่งเป็นลูกกระสุน ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ ขอแค่สับไกเราให้ขยับไปข้างหน้าก็พอ เหมือนตัวอย่างที่ผมเล่าไปแล้วเรื่องการออกกำลังกาย คิดดูสิครับ "ความตาย" ยัง "ผลัก" ผมไม่ได้ แต่แค่ "การได้ดูหนัง" กลับ "ดึงดูด" ให้ผมออกกำลังกายได้

ถ้าวันนี้สิ่งที่เราอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ยังทำไม่ได้สักที เช่น ลดความอ้วนไม่ลง ขยันได้ไม่นานก็ขี้เกียจเหมือนเดิม ตั้งเป้าหมายแล้วก็ล้มเลิก ยอมแพ้ง่าย แกล้งตายบ่อย เป็นไปได้ว่าอาจเป็นเพราะ "ยังหาสิ่งที่สับไกเราไม่เจอ"

มันอาจเป็นเพราะแค่คำเพื่อนแซว มันอาจเป็นเพราะต้องการลบคำสบประมาท มันอาจเป็นเพราะแค่เราอยากพิสูจน์ให้ที่บ้านเห็น มันอาจเป็นเพราะมีคนรัก เราจึงอยากดีกว่าเดิม มันอาจเป็นเพราะเรามีลูกน้อยที่ต้องดูแล มันอาจเป็นเพราะเราอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น ฯลฯ

ผมไม่รู้ว่าคำตอบของแต่ละคนคืออะไร แต่มันเป็นคำถามที่น่าคิดหาคำตอบให้ได้ว่า "อะไรที่จะสับไกให้เราอยากปลูกนิสัยดี ๆ ให้ตัวเอง?"

นิสัยนั้นกำหนดชะตาชีวิตคนเรามากกว่าที่คิด เพราะส่วนใหญ่เราตัดสินใจทำหรือไม่ทำอะไรจากนิสัยเดิม ๆ ถ้ามันเป็นนิสัยที่ดี ชีวิตก็จะยิ่งดี ถ้ามันเป็นนิสัยแย่ ชีวิตก็จะยิ่งแย่ การปลูกนิสัยจึงสำคัญมาก ๆ เริ่มจากวันนี้ด้วยการถามตัวเองว่า "เดือนนี้ฉันจะปลูกนิสัยอะไร?" ทำมันต่อเนื่องให้ได้ตลอดทั้งเดือนนี้ เริ่มที่นิสัยเดียวก่อน ทำได้แล้วอย่าลืมให้รางวัลตัวเอง เราจะได้อยากทำซ้ำแล้วซ้ำอีก

เรื่องนี้สำคัญมาก อย่าอ่านข้อเขียนนี้แล้วแค่ชอบ แล้วผ่านเลยไป เป็นแค่ข้อความที่ประทับใจเท่านั้น แต่ขอให้ลงมือปลูกนิสัยดี ๆ แล้วชีวิตจะดียิ่ง ๆ ขึ้นไป

บอกผมหน่อยสิครับ "เดือนนี้คุณจะปลูกนิสัยอะไร?".


5,094 views0 comments

Comments


Home: Blog
Screen Shot 2561-12-19 at 01.56.23.png
Screen Shot 2561-12-19 at 01.56.34.png

กรอกข้อมูล รับฟรี! ebook บนท้องฟ้ารถไม่เคยติด

bottom of page