1.
โมงยามดี ๆ ของชีวิต มีไว้ให้เราชื่นชม ส่วนวันคืนเลวร้าย แม้ไม่ชอบ แต่เรานั้นต้องก้มกราบ...ในฐานะที่ทำให้เราแกร่งขึ้น
ผมคงไม่มีวันลืมภาพในวันนั้น วันที่ผมกับเพื่อนเปิดร้านค้าแล้วเจ๊ง ต้องเอาของที่เหลือมาแบกะดิน นั่งขายอยู่หน้าเกษรพลาซ่า คอยเก็บของหนีเทศกิจให้ทัน
ผมคงไม่มีวันลืมภาพที่ผมกับลูกเมีย ติดรถเพื่อนกลับจากต่างจังหวัด เราลงกันที่ริมถนนบางนา-ตราด ผมอุ้มลูกที่ยังเล็ก ยืนข้างถนน โบกแท็กซี่อยู่นาน...ก็ไม่จอด ได้แต่คิดว่าวันหนึ่ง ถ้ามีรถเป็นของตัวเองคงจะดี
ผมคงไม่มีวันลืมช่วงที่ชีวิตล้มลง เงินเหลือติดบ้านอยู่น้อยนิด เอาของที่พอขายได้ มาเลหลัง ต้องแบกหน้าไปขอขึ้นเงินเดือนเจ้านาย ...ซึ่งก็ไม่สำเร็จ
ผมคงไม่มีวันลืมคืนที่ออกไปยืนหน้าบ้าน พนมมือกราบจตุคามที่ไปเช่ามา ทั้งที่ไม่เคยเชื่อเรื่องอะไรพวกนี้เลย แต่ตอนนั้น ที่พึ่งอะไรก็ได้
...ขอให้พ้นจากชีวิตที่เลวร้ายนี้เสียที
2.
10 กว่าปีผ่านไป ผมผ่านพ้นเรื่องราวเหล่านั้นมาหมดแล้ว วันนี้ได้มีอย่างที่อยากมี ได้เป็นอย่างที่อยากเป็น และได้อีกหลายอย่างที่ไม่เคยคิดฝัน ผมพบว่าเมื่อผ่านเวลาไปนานมากพอ เรื่องเศร้าบางเรื่อง จะกลายเป็นเรื่องที่เล่าได้อย่างสนุก ออกรสชาติ
มองย้อนกลับไป ทางที่เดินมา ผมล้วนลองผิดลองถูก ล้มแล้วก็ลุก ลุกแล้วก็ล้ม โชค...ถ้ามีจริง ก็คงเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้มาถึงซึ่งวันนี้ แต่มากกว่านั้น ส่วนใหญ่ผมคิดว่าเกิดจากความพยายามของตัวเอง จนที่สุดก็เจอทางที่เหมาะกับความสามารถ
ผมเคยทำงานเป็นบรรณาธิการหนังสือ จึงเข้าใจในประโยคที่บอกว่า "กว่าจะสำเร็จ ล้วนต้องผิดพลาดอยู่หลายครั้ง" เพราะกว่าจะเป็นหนังสือหนึ่งเล่มให้อ่าน ต้นฉบับต้องผ่านการแก้ไขไม่รู้เท่าไหร่
เริ่มต้นจากต้นฉบับที่ยุ่งเหยิง เขียนแล้วลบ เขียนแล้วทิ้ง ผ่านการตัดต่อ แก้ไข เรียบเรียงให้เรียบร้อย จากนั้นจึงนำไปจัดหน้าให้สวยงาม พอจัดหน้าเสร็จ อย่านึกว่าเสร็จแล้ว เพราะยังจะพบจุดผิดพลาดอีกอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นคำผิด เว้นวรรคผิด ตกบรรทัด ประโยคหาย กราฟฟิกทับตัวหนังสือ ตัวเลขบทไม่ตรง...กว่าจะเป็นหนังสือหนึ่งเล่มให้ได้อ่าน จึงผ่านความผิดพลาดมาไม่รู้กี่จุดแก้ไข
กว่าจะเป็นหนึ่งชีวิตก็เช่นกัน ต้องผ่านผิดพลาดมาไม่น้อย
3.
มหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่นท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า "ถ้าเอากล้องจุลทรรศน์ไปส่องดูความสำเร็จ จะพบความล้มเหลวอยู่ในนั้น"
หลายคนไม่กล้าก้าวออกไปทำในสิ่งใหม่ เพียงเพราะกลัวล้มเหลว กลัวไม่สมบูรณ์แบบ รอให้พร้อมก่อนดีกว่า แต่หารู้ไม่ว่าถนนสู่ความสำเร็จนั้น ล้วนปูด้วยก้อนอิฐแห่งความล้มเหลว
ต้องผิดก่อน จึงรู้ว่าสิ่งใดถูก ต้องล้มบ้าง เพื่อสร้างประสบการณ์ ต้องสะสมล้มเหลว เพื่อแลกความสำเร็จ ความล้มเหลวเป็นเรื่องธรรมชาติ ความผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดา ล้มไปข้างหน้า ก็ยังดีกว่ายืนนิ่งอยู่กับที่
"กว่าจะสำเร็จ ล้วนต้องผิดพลาดอยู่หลายครั้ง" ทั้งหมดที่เราต้องทำจึงคือ ลุกให้มากกว่าล้ม...หนึ่งครั้ง
โมงยามดี ๆ ของชีวิต มีไว้ให้เราชื่นชม ส่วนวันคืนเลวร้าย แม้ไม่ชอบ แต่เรานั้นต้องก้มกราบ...ในฐานะที่ทำให้เราแกร่งขึ้น
...แล้วเราจะผ่านทุกเรื่องไปด้วยกันครับ.
Comments