1.
"ฉันไม่ได้เห็นโลกอย่างที่มันเป็น แต่ฉันเห็นโลกอย่างที่มันจะเป็นไปได้" ประโยคนี้ผมได้ยินจากภาพยนตร์เรื่อง Cinderella (2015) ที่ลูกสาวผมดู เป็นประโยคที่ใช้ทั้งเปิดและปิดเทพนิยายเรื่องนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่านี่คือ "หัวใจ" ที่ผู้สร้างหนังพยายามบอกกับเรา
เรื่อง "การมองโลก" นั้น เป็นเรื่องที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราถกเถียงกันบ่อยมาก ตกลงแล้วเรา "มองโลกในแง่ดี คิดบวก" หรือ "กำลังหลอกตัวเอง" กันแน่?
ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า "คิดบวก" กับ "หลอกตัวเอง" นั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง "หลอกตัวเอง" คือ การจมจ่อมอยู่กับปัญหา หมกมุ่นอยู่กับมัน ตั้งคำถามซ้ำเดิมว่าทำไมถึงต้องเป็นเรา? ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องมาเกิดกับเรา? แต่ปากกลับบอกคนอื่นว่าโอเค ไม่เป็นไร ฉันสบายดี ...นั่นคือการหลอกตัวเอง
ส่วน "คิดบวก" คือ การตระหนักว่าเรื่องเกิดขึ้นแล้ว ไม่รู้จะจมจ่อม หมกมุ่นไปทำไม จึงพยายามมองหามุมใหม่ ด้วยการตั้งคำถามว่า ไหน ๆ เรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว มีเรื่องอะไรดี ๆ ซ่อนอยู่ในเรื่องนี้บ้าง? ฉันเรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้ได้บ้าง? และเมื่อถามดี ก็จะได้คำตอบดี ๆ เสมอ
...นั่นคือการคิดบวก หรือมองโลกในแง่ดี
2.
บางคนฟังแล้วก็ยังรู้สึกเหมือนว่าหลอกตัวเองอยู่ดี แต่คำถามฉุกคิดก็คือ ถ้าสิ่งที่เรียกว่าความจริง มันห่วยแตก ถ้าสิ่งที่เรียกว่าหลอกตัวเอง มันช่วยประคองความคิดเราได้ แล้วเราจะทนถือความจริงที่ห่วยแตกไปทำไม?
"ฉันไม่ได้เห็นโลกอย่างที่มันเป็น แต่ฉันเห็นโลกอย่างที่มันจะเป็นไปได้" ซินเดอเรลล่ารอดพ้นชีวิตในห้องใต้หลังคามาได้ มีความหวังท่ามกลางแม่เลี้ยงและพี่สาวใจร้าย ก็เพราะประโยคนี้ ...และเราเองก็ใช้ประโยชน์จากประโยคนี้ได้เช่นกัน
โลกมีหลายมุม และจะเปลี่ยนไปตามมุมที่เรามอง ลองหาความเป็นไปได้สิครับว่าเราจะมองโลกมุมไหนดี มุมที่มองแล้ว เป็นประโยชน์กับตัวเรา มุมไหนมองแล้วไม่ดีกับตัวเอง ก็อย่าไปมองมันมากมาย
ชีวิตคนเราสั้นนัก อย่ามัวถือความทุกข์อยู่เลย
3.
ช่วงนี้ผมกำลังมีความสุขกับอ่านหนังสือที่ชื่อ "100 Simple Secrets of Happy People" หรือ 100 เคล็ดลับง่าย ๆ ของคนมีความสุข มันเป็นหนังสือที่อ่านง่าย ผมจึงวางไว้ข้างหัวเตียง ทุกเช้าตื่นมา ก็เปิดสุ่มอ่านวันละ 1 เคล็ดลับ ผมพบว่ามันช่วยให้ความรู้สึกตอนเริ่มต้นวันดีมาก และลามไปถึงความรู้สึกตลอดทั้งวัน (ลองทำดูสิครับ หาหนังสือดี ๆ อ่านตอนเช้าสัก 5-10 นาทีก็ได้ ความรู้สึกจะยอดเยี่ยมไปทั้งวัน หรืออย่างน้อยก็ตอนเช้า) หนึ่งในเคล็ดลับที่ผมพลิกอ่านเจอและชอบมาก ก็คือเคล็ดลับที่บอกว่า "If You're Not Sure, Guess Positively" แปลเป็นไทยว่า "ถ้าไม่แน่ใจ ให้คาดเดาในแง่บวกไว้ก่อน" ผมคิดว่าเคล็ดลับข้อนี้คือรากฐานสำคัญของคนที่มีความสุขในชีวิต นั่นคือ "คาดหวังว่าจะต้องมีสิ่งที่ดีเกิดขึ้น" ในขณะที่คนส่วนใหญ่เหมือนถูกตั้งค่าจากโรงงานมาแล้วว่า "โลกนี้โหดร้าย ระวังตัวให้ดี สิ่งร้ายกำลังจะมาเยือน"
เราจึงอยู่ในโลกที่หลายคนเดินทางไปทำงาน ด้วยความคาดหวังและคิดตลอดว่า "วันนี้จะโดนเจ้านายบ่นอะไรอีก?" เจอคนทำดี ก็คิดระแวงระวังว่า "มาไม้ไหนวะเนี่ย ต้องอยากได้อะไรจากฉันแน่ ๆ"
คาดหวังจะเจอสิ่งไหน เราก็จะได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ คาดหวังสิ่งดี ก็จะได้รับสิ่งดี คาดหวังสิ่งร้าย ก็จะได้รับสิ่งร้าย เพราะฉะนั้น ผมจึงเห็นด้วยมาก ๆ กับเคล็ดลับข้อนี้ในหนังสือ "ถ้าไม่แน่ใจ ให้คาดเดาในแง่บวกไว้ก่อน"
เริ่มต้นวันใหม่ด้วยความหวังว่าจะมีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้น แล้วดวงตาเราจะมองเห็นในสิ่งนั้นที่อยากเห็น
นั่นล่ะครับเคล็ดลับของคนที่มีความสุขในชีวิต
4.
คนบางคนคาดหวังว่าสิ่งเลวร้ายจะเกิดขึ้นกับเขา ...ออกจากบ้านวันนี้รถติดแน่ ๆ เข้าห้างไม่มีที่จอดรถแน่ ๆ ส่งงานเจ้านายบ่นแน่ ๆ ฝนตก ป่วยแน่ ๆ อากาศร้อน ป่วยแน่ ๆ ป่วยบ่อย อายุไม่ยืนแน่ ๆ เรา
คนบางคนคาดหวังว่าสิ่งดี ๆ จะเกิดขึ้นกับเขา ...ออกจากบ้านทางสะดวกแน่ ๆ เข้าห้างแล้วมีที่จอดรถเตรียมไว้สำหรับฉันแน่ ๆ ส่งงานผ่านฉลุยแน่ ๆ อากาศเย็นสบายดีจัง สูดลมหายใจได้เต็มปอด แข็งแรง อายุยืนแน่ ๆ เรา
คาดหวังแบบไหน ก็มีแนวโน้มจะเป็นแบบนั้น เพราะคนเราจะหาหลักฐานมาสนับสนุนความคาดหวังของตัวเอง เราจะมองเห็นแต่สิ่งที่มองหา
มันเป็นเช่นนี้มานาน และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป.
Comments