1.
โลกนี้ไม่ได้ชนะกันด้วยความเก่งสะท้านฟ้า แต่ชนะด้วยความเก่งประมาณหนึ่ง...ขอแค่สม่ำเสมอก็พอ คนที่ก้าวไปข้างหน้าเพียงวันละหนึ่งก้าว ในระยะยาวแล้ว จึงไปไกลกว่าคนที่ก้าวใหญ่ ๆ แค่ปีละไม่กี่วัน
บางทีคำถามที่ผมคิดว่าน่าสนใจมาก และเราควรจะถามตัวเองทุกวันก็คือ "วันนี้เราทำอะไรบางอย่าง เพื่อให้เราก้าวไปข้างหน้าแล้วหรือยัง?" เพราะเอาเข้าจริง ชีวิตเราไม่ใช่อย่างในหนัง ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดเหตุการณ์ประเภท "แล้วฤดูร้อนนั้น ฉันก็ไม่เหมือนเดิมตลอดกาล" ...น้อยคนจะมีเหตุการณ์พลิกชีวิตที่เกิดขึ้นในวันเดียว
ชีวิตจริง ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะเราทำอะไรบางอย่าง "เล็ก ๆ น้อย ๆ" สะสมจากวันเป็นเดือน จากเดือนเคลื่อนไปเป็นปี
"วันนี้เราทำอะไรบางอย่าง เพื่อให้เราก้าวไปข้างหน้าแล้วหรือยัง?" คำถามนี้จึงสำคัญมาก คนส่วนใหญ่ไม่ถามคำถามนี้ ได้แต่ทำกิจกรรมประจำวันไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้เช็คว่ายังอยู่บนเส้นทางหรือเปล่า?
หรือถูกกระแสลมพัดจนออกนอกเป้าหมายชีวิตไปแล้ว...แต่ไม่รู้ตัว
2.
ลองสังเกตสิครับว่าวันนี้เราทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อ "เคลื่อน" ตัวเราไปสู่สิ่งที่ต้องการในชีวิตแล้วหรือยัง? มันอาจเป็นหนึ่งบทในหนังสือที่เราอ่าน มันอาจเป็นชั้นเรียนภาษาหลังเลิกงานที่ไปลงเรียน มันอาจเป็นสามสิบนาทีของการออกกำลังกาย มันอาจเป็นเงินไม่กี่บาทที่หยอดกระปุกไว้ มันอาจเป็นขนมที่ซื้อมาฝากคนรักในทุกวัน มันอาจเป็นนิทานก่อนนอนที่เล่าให้ลูกฟังทุกคืน
...มันเป็นอะไรก็ได้ ที่เล็ก ๆ น้อย แต่ "สม่ำเสมอ" ไม่ต้องยิ่งใหญ่ถึงขั้นกอบกู้โลก แต่คนธรรมดาอย่างเราเปลี่ยนชีวิตตัวเองได้ ด้วยการทำสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เคลื่อนเราไปข้างหน้าทุกวัน
เต่าชนะกระต่ายด้วยการคลานไม่หยุด มนุษย์ก็เอาชนะอุปสรรคทุกอย่าง ด้วยการค่อย ๆ "คืบคลาน" ไปข้างหน้า
3.
ถ้าวันนี้เราไม่ได้ทำสิ่งต่อไปนี้ อ่านหนังสือดี ๆ ดูคลิปวิดีโอดี ๆ ฟัง podcast ดี ๆ ดูหนังดี ๆ เข้าสัมมนาดี ๆ คบเพื่อนดี ๆ ออกไปหาประสบการณ์ในโลกกว้าง ศึกษาวิชาความรู้ใหม่ ๆ ทบทวนความรู้เดิม ทบทวนชีวิตตนเอง
ถ้าวันนี้เราไม่ได้ทำสิ่งต่อไปนี้ ชีวิตเราก็คงไม่เปลี่ยนเท่าไหร่ เพราะมันก็แค่วันเดียวเอง ...แต่ถ้าเดือนนี้ ก็ยังไม่เคยทำสิ่งต่าง ๆ ที่ว่ามา ...แต่ถ้าปีนี้ ก็ยังไม่เคยทำสิ่งต่าง ๆ ที่ว่ามา ...แต่ถ้าปีที่แล้ว ก็ยังไม่เคยทำสิ่งต่าง ๆ ที่ว่ามา ...ปีก่อน ๆ ก็เหมือนกัน ไม่เคยทำอะไรเลย
ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็เข้าขั้นอันตราย เพราะเรากำลังทำร้ายตัวเอง เหมือนใส่ยาพิษที่ออกฤทธิ์ช้าให้ตัวเองกินวันละนิด กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว ชีวิตก็ไม่ได้ล้มเหลวในวันเดียวเช่นกัน แต่มันสะสมมาจากความไม่ปรารถนาดีกับตัวเอง วันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า รู้ตัวอีกที "อนุสาวรีย์แห่งความล้มเหลว" ก็สร้างเสร็จแล้ว (ต้องร้องไชโย? ผมคิดว่าไม่)
ถ้าขืนยังไม่ปรารถนาดีแม้แต่กับตัวเอง ก็เตรียมตัด "ริบบิ้นสีดำ" ให้กับงานเปิดอนุสาวรีย์ที่ว่านี้ได้เลย
แต่ผมไม่ไปร่วมงานนะครับ ไม่ต้องส่งบัตรเชิญมา
4.
แค่ครึ่งชั่วโมงต่อวัน ถ้าเอาเวลาไปพัฒนาตัวเอง อ่านหนังสือดี ๆ ดูคลิปดี ๆ ฟังความรู้ดี ๆ พบปะพูดคุยกับคนเก่ง ๆ ...ในหนึ่งปี เราจะได้เวลาพัฒนาตัวเองทั้งสิ้น 182 ชั่วโมง หรือเท่ากับ 7 วันเต็ม ๆ
7 วันเอง? ฟังดูน้อยมาก แต่นี่คือ "7 วันพิเศษ" ที่จะเปลี่ยนชีวิตที่เหลือของเรา เป็น 7 วันอันน้อยนิดที่จะทำให้เราเหนือชั้นกว่าเราคนเดิม โดยที่ในระยะสั้น จะแทบมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง แต่ในระยะยาว ชีวิตเราจะฉีกทางออกไปเรื่อย ๆ ดีขึ้นและดีขึ้น จนคนรอบตัวต้องแปลกใจว่าเราไปทำอะไรมา? ทำไมชีวิตจึงเปลี่ยนแปลงได้ขนาดนี้
7 วันพิเศษใน 1 ปีที่เราพัฒนาตัวเอง เมื่อผ่านไป 10 ปี มันคือ 70 วันเต็ม ๆ ที่เราฝึกปรือวิชา คนส่วนใหญ่ในหนึ่งชีวิต ทำงาน 40 ปี นั่นแปลว่า 40 ปีที่เราแบ่งเวลาครึ่งชั่วโมงทุกวันมาเรียนรู้ เราจะมีวันพิเศษแบบนี้มากถึง 280 วันเต็ม ๆ หรือเท่ากับ 9 เดือน..ไม่น้อยนะครับ
ชีวิตที่ประสบความสำเร็จไม่ได้เรียกร้องการทุ่มเทสุดตัวทั้งวัน ทุกวัน มันแค่ต้องใช้ความพยายามก้าวไปข้างหน้า...น้อยนิด แต่สม่ำเสมอ จัดสรรเวลาวันละครึ่งชั่วโมง (เป็นอย่างน้อย) ให้เป็น "ชั่วโมงพัฒนาตัวเอง" หาหนังสือ คลิปวิดีโอที่เกี่ยวข้องสายงานมาศึกษา หรือจะฟัง podcast ก็ได้ และวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้เรามีวินัยก็คือ ตั้งเวลาเตือนในมือถือทุกวันว่า "ถึงเวลาพัฒนาตัวเองแล้ว!"
ทำแบบนี้ต่อเนื่อง 30 วัน เราจะฝัง "ชั่วโมงการเรียนรู้" ให้ตัวเองอย่างถาวร (ผมแนะนำว่าช่วงเช้าดีที่สุด)
หาเวลาวันละแค่ครึ่งชั่วโมงมาพัฒนาตัวเอง แล้วคุณจะจำคุณคนเดิมไม่ได้ในอีก 10 ปีข้างหน้า.
หมายเหตุ : เรียบเรียงจากบางส่วนของหนังสือ "มองไกลบนไหล่ยักษ์" สั่งซื้อได้ ที่นี่
Comments